บทที่ 3 มุมมองภาพและการตกแต่งภาพด้วยเลเยอร์ (Layer)
รูปภาพต่างการจัดรูปแบบหรือการจัดวางต้องอาศัยพาเลตเลเยอร์ และจัดรูปแบบเครื่องมือต่างๆ สามารถกำหนดรูปแบบของไฟล์ภาพให้เหมาะสม เช่น ไฟล์รูปภาพสำหรับการพิมพ์ หรือไฟล์ภาพสำหรับงานเว็บเพจ
3.1 การกำหนดมุมมองและการย่อหรือขยายภาพ
3.1.1 แสดงเส้นกริด ไกด์ และไม้บรรทัด คือ การแสดงมุมมองเส้นกริด (Grid) ไกด์ (Guide) และไม้บรรทัด (Ruler) เป็นออปชันเพิ่มสำหรับการทำงานเกี่ยวกับการจัดการภาพถ่าย และงานด้านการออกแบบที่ต้องการความแม่นยำในเรื่องของตำแหน่งที่ต้องการวางภาพ มีรูปแบบ และการใช้งานดังขั้นตอนดังนี้
1. คลิกปุ่ม
2. เลือกออปชันที่ต้องการ
3. ลักษณะของเส้นกริด ไกด์ และไม้บรรทัดที่ปรากฎบนภาพที่ใช้งานอยู่
เครื่องหมาย P ด้านหน้าแสดงว่า
ออปชันนั้นถูกเรียกใช้งาน
ถ้าคลิกซ้ำจะเป็นการยกเลิก
เส้นไกด์แนวนอน
เส้นไกด์แนวตั้ง
ไม้บรรทัด
3.1.2 การย่อหรือขยายรูปภาพ คือ คำสั่งสำหรับการขยายไฟล์รูปภาพเพื่อดูรายละเอียดของภาพที่เปิดใช้งานให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น การย่อขยายด้วยเมนูวิว (View ) และการใช้เครื่องมือ
ซูม ทูล (Zoom Tool) มีขั้นตอนดังนี้
3.1.2.1 การย่อและขยายรูปภาพด้วยเมนู View มี 2 วิธี ดังนี้
1) การย่อรูปภาพจากเมนูคำสั่ง เช่น คลิกที่เมนู View à Zoom out หรือการ
ใช้คีย์ลัด เช่น กดปุ่ม Ctrl + – ที่แป้นพิมพ์ ถ้ากดซ้ำอีกภาพจะมีขนาดเล็กลงไปอีก
2) การขยายรูปภาพจากเมนูคำสั่ง เช่น คลิกที่เมนู ViewàZoom In หรือการ
ใช้คีย์ลัด เช่น กดปุ่ม Ctrl + + + ที่แป้นพิมพ์ ถ้ากดซ้ำอีกภาพจะมีขนาดใหญ่ขึ้นอีก
3.1.2.2 การย่อและขยายรูปภาพด้วยเครื่องมือซูม ทูล (Zoom Tool) คือ การย่อและขยายรูปภาพ โดยคลิกที่เครืองมือ และกำหนดคุณสมบัติเครื่องมือซูม ทูลในออปชันบาร์
ขั้นตอนดังนี้
ปรับขนาดให้พอดีกับหน้าต่างรูปภาพ
ปรับขนาดรูปภาพที่จะพิมพ์
ออกทางเครื่องพิมพ์
ปรับหน้าต่างให้พอดีกับการย่อ/ขยายภาพ
ปรับขนาดเท่ากับภาพจริง
ขยายรูปภาพ
ย่อรูปภาพ
ปรับหน้าต่างให้พอดีกับภาพย่อ/ขยาย
วิธีการย่อและขยายรูปภาพด้วยเครื่องมือ ซูม ทูล มีวิธีการดังนี้
1) หรือคลิกที่เครื่องมือ รูปเมาส์พอยเตอร์จะเปลี่ยนไปเป็นรูปแว่นขยาย
และเครื่องมือมีเครื่องหมาย + จากนั้นคลิกที่รูปภาพที่ต้องการขยาย
2) การย่อขนาดภาพโดยกดปุ่ม Alt ที่แป้นพิมพ์รูปเมาส์พอยเตอร์เปลี่ยนเป็น
รูปแว่นขยาย เมาส์มีเครื่องหมาย – จากนั้นคลิกรูปภาพที่ต้องการย่อขนาด
การขยายภาพด้วยเครื่องมือ ได้แล้วยังสามารถใช้คำสั่งอื่นๆ เช่น คีย์ลัด
ขยายภาพเป็นขนาด 100 % ได้ง่ายๆ โดยการกดปุ่ม Ctrl + Alt + 0 หรือย่อขนาดภาพให้เต็มจอพอดีโดยกดปุ่ม Ctrl + 0 การย่อรูปภาพหรือขยายรูปภาพที่นิยมอีกวิธีหนึ่ง คือ การใช้พาเลตเนวิเกเตอร์ (Navigator) ขยายรูปภาพ โดยคลิกเรียกได้จาก เมนู Window à Navigator เป็นการเปิดพาเลตดังกล่าวขึ้นมาซึ่งเราสามารถกำหนดขนาดการแสดงภาพ รวมถึงเลือกจุดที่ต้องการแสดงได้ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือบ่อยๆ ดังนี้
ภาพที่เปิดใช้งาน
กรอบสีแดงกำหนดพื้นที่แสดงภาพ
เปอร์เซนต์การขยายภาพ
ปรับเลื่อนย่อ/ขยายภาพ
ขยายภาพ
3.1.3 การเลือนดูภาพด้วยเครื่องมือ (Hand Tool) คือการการเลื่อนดูภาพส่วนต่างๆ
โดยคลิกที่เครื่องมือ จากนั้นคลิกเมาส์ค้างที่รูปภาพ แล้วดึงเมาส์เลื่อนดูทีละส่วนของรูปภาพในตำแหน่งที่ต้องการ
เมื่อนำเมาส์วางที่รูปภาพ เมาส์จะเป็นรูป ซึ่งสามารถใช้เมาส์นี้คลิกเลื่อนดูภาพตามตำแหน่งที่คลิกเมาส์ลงไป (โดยวิธีการดึงเมาส์จะเลื่อนภาพมา ณ จุดที่ต้องการดูรูปภาพ) การใช้เครื่องมือดังกล่าวจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อขยายรูปภาพนั้นๆ ให้มีขนาดใหญ่กว่าหน้าต่างโปรแกรม จึงจะสามารถเลื่อนดูภาพส่วนอื่นๆ ได้
3.2 การตกแต่งภาพด้วยพาเลตเลเยอร์ (Layer )
พาเลตเลเยอร์ คือ การลำดับภาพ การตกแต่งภาพสามารถใช้คำสั่งตกแต่งแก้ไขภาพบางส่วนของภาพได้ เช่น คำสั่งในการแก้ไขภาพ ปรับแต่งภาพ ลบภาพ สามารถทำได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับส่วนอื่นๆ ของภาพ โดยอาศัยการทำงานของพาเลตเลเยอร์ที่สามารถควบคุมรูปภาพแยกเป็นส่วนๆ และสามารถสร้างรูปภาพที่มีการวางซ้อนทับกัน
3.2.1 วิธีการเรียกใช้พาเลต Layer มีวิธีการเรียกใช้จากเมนู Window แล้วเลือกพาเลต Layer
ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกที่เมนู Window à Layer หรือ กดปุ่ม F7
2. คลิกเลือกพาเลตเลเยอร์
3.2.2 ส่วนประกอบของพาเลตเลเยอร์ การสร้างภาพจำเป็นต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับการใช้พาเลตเลเยอร์ เช่น การใส่เอฟเฟ็กต์ การสร้างเลเยอร์ มาสก์ (Layer Mask) และการซ่อนเลเยอร์เพื่อดูผลลัพธ์ในลักษณะต่างๆ โดยส่วนประกอบของเลเยอร์ที่สำคัญมีดังภาพนี้
การล็อกเลเยอร์
การผสานสีเลเยอร์
สัญลักษณ์เพื่อซ่อน/แสดง
เลเยอร์
กำหนดความโปร่งใสของภาพ
กำหนดความโปร่งใส
ของภาพในเลเยอร์
ใส่สไตล์ให้เลเยอร์
เลเยอร์ตัวอักษร สัญลักษณ์ T
เลือกเลเยอร์ที่ทำงาน
สร้างลิงค์ให้เลเยอร์ที่เลือก
สร้างเอฟเฟ็กต์ให้เลเยอร์
สร้างมาสก์ให้เลเยอร์
สัญลักษณ์ที่แสดงว่าเลเยอร์นั้น
ถูกล็อกการทำงาน
ลบเลเยอร์
สร้างเลเยอร์
สร้างเลเยอร์กรุ๊ป (Group)
3.2.3 พาเลตเลเยอร์ ( Layer) คือ ลำดับขั้นตอนการวางภาพแบบหนังสือซ้อนทับกันจำนวนหลายๆ เล่ม โดยวัตถุที่อยู่ด้านบนสุดจะบังทับวัตถุที่อยู่ด้านล่าง และถ้าหากวัตถุที่อยู่ด้านบนมีการเจาะทะลุผ่านจะสามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ด้านล่างได้ด้วย รูปภาพที่มีการวางซ้อนทับกันหลายๆ ภาพ โดยการวางภาพไม่ควรอยู่ในเลเยอร์เดียวกัน เพื่อความสะดวกในการแก้ไขภาพ เช่น การลบภาพการกำหนดความโปร่งใสของภาพ การวางภาพแบบมีลำดับก่อนหลัง การใส่สีเส้น และการใส่เอฟเฟ็กต์ เช่น การวางซ้อนทับกันของภาพในเลเยอร์ดังภาพนี้
3.2.4 การจัดการเบื้องต้นกับเลเยอร์ คือ การจัดการเบื้องต้นในการสร้างเลเยอร์ใหม่เพื่อใช้ระบายสี การปรับแต่งค่าอื่นๆ ที่ไม่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงภาพในเลเยอร์เดิม และการลบเลเยอร์ที่ไม่ต้องการ โดยมีวิธีการดังนี้
3.2.1.2 การสร้างเลเยอร์ใหม่ คือ การคลิกเมนู LayeràNew à Layer หรือปุ่ม
Shift + Ctrl + N ซึ่งสามารถกำหนดออปชันเพิ่มเติมให้เลเยอร์ใหม่ที่สร้างได้ ขั้นตอนดังนี้
1. คลิกเมนู LayeràNew à Layer หรือกดปุ่ม Shift + Ctrl + N
เพื่อเปิดหน้าต่าง New Layer
2. ตั้งชื่อให้เลเยอร์ที่สร้างขึ้น
3. คลิกเลือกสีของเลเยอร์ เพื่อแยกกลุ่มหรือประเภทของเลเยอร์ที่ทำงาน
4. ได้เลเยอร์ใหม่ ที่มีชื่อและสีเลเยอร์ตามที่กำหนด
เลเยอร์ที่สร้างไว้แล้ว และต้องการเปลี่ยนชื่อเลเยอร์ในภายหลังสามารถทำได้โดยการ
ดับเบิลคลิกบนชื่อเลเยอร์เดิมแล้วตั้งชื่อให้เลเยอร์ใหม่ได้ทันที การตั้งชื่อทำเพื่อสะดวกในการค้นหา
เลเยอร์ในภายหลัง
ดับเบิลคลิกแล้วพิมพ์ชื่อใหม่ได้ทันที
3.2.1.3 การสร้างสำเนาเลเยอร์ (Duplicate Layer) คือ การคัดลอกเลเยอร์เพิ่มจาก
เลเยอร์เดิม การตกแต่งภาพบางครั้งจำเป็นต้องนำภาพในเลเยอร์เดิมมาทดลองปรับแต่งแก้ไขก่อนเพื่อป้องกันความเสียหายของภาพต้นฉบับ ซึ่งเราเรียกวิธีการนี้ว่าการ Duplicate Layer ซึ่งสามารถทำได้
ตามขั้นตอนดังนี้
คลิกเลือกเลเยอร์ back แล้วกดปุ่ม
Ctrl + J เพื่อสร้างสำเนา
เลเยอร์ที่เลือก
แดรกเมาส์นำเลเยอร์มาปล่อยที่
ปุ่ม Create a new layer
3.2.1.4 การลบเลเยอร์ (Delete layer) คือ การลบเลเยอร์ที่ไม่ต้องการขั้นตอนดังนี้
1) การลบแบบถามซ้ำ การลบด้วยวิธีนี้คำสั่งจะถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความ
แน่ใจก่อนลบทิ้ง โดยมีขั้นตอนดังนี้
2. คลิก Yes เมื่อต้องการลบ หรือคลิก No เมื่อไม่ต้องการลบ
1. นำเมาส์คลิกเลเยอร์ที่ต้องการลบแล้วคลิก Delete layer
ภาพที่ 3.12 แสดงภาพการลบแบบถามซ้ำ
2) การลบเลเยอร์โดยการแดรกเมาส์มาวางที่ปุ่ม การลบด้วยวิธีนี้
ผู้ใช้สามารถเลือกเลเยอร์แล้วแดรกเมาส์ไปวางที่ปุ่ม (Delete layer) ได้ทันที โดยคำสั่งจะไม่ถามซ้ำว่าต้องการลบหรือไม่ทำให้ภาพนั้นลบไปทันที มีขั้นตอนดังนี้
เลือกเลเยอร์ภาพ แดรกเมาส์ดึง
เลเยอร์ภาพมาวางที่ปุ่ม เพื่อลบทิ้ง
3) การลบเลเยอร์แบบรวดเร็ว เมื่อต้องการลบเลเยอร์แบบรวดเร็วผู้ใช้
สามารถคลิกเลือกเลเยอร์แล้วกดปุ่ม Delete บนแป้นพิมพ์ได้ทันที
เลือกเลเยอร์แล้วกดปุ่ม Delete
บนแป้นพิมพ์ เพื่อลบทิ้ง
3.2.1.5 การสลับลำดับเลเยอร์ (Layer Order) คือ การสลับตำแหน่งการวางภาพใน
เลเยอร์เพื่อเปลี่ยนลำดับการซ้อนทับของภาพ โดยคลิกเมาส์เลือกเลเยอร์ที่ต้องการสลับ (เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูปมือ) แล้วแดรกเมาส์ไปวาง ณ ตำแหน่งที่ต้องการวางภาพ เช่น ต้องการนำภาพ Layer 2 วางไว้ด้านบนของ Layer 4 ให้สังเกตเส้นทึบสีน้ำเงินที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดที่สามารถปล่อยเมาส์ ณ ตำแหน่งที่ต้องการวางภาพ
3.2.1.6 การรวมเลเยอร์ (Merge Layer) คือ การรวมภาพสำหรับเลเยอร์ภาพที่ตกแต่ง
เรียบร้อยหรือเลเยอร์ภาพที่มีรูปแบบใกล้เคียงกันสามารถทำภาพเหล่านั้นให้กลายเป็นเลเยอร์เดียวกันได้ เพื่อลดจำนวนเลเยอร์ของภาพ โดยขั้นตอนดังนี้
1) รวมเลเยอร์ด้วยคำสั่งเมิจ ดาวน์ (Merge Down) คือ การรวมเลเยอร์ที่อยู่
ด้านบนกับเลเยอร์ด้านล่าง คลิกเลือก Layer 1 แล้วคลิกขวา เลือกคำสั่ง Merge Down ( คลิก Layer 1 à Merge Down) หรือกดปุ่ม Ctrl + E
2) รวมเลเยอร์ที่ไม่ได้ซ่อนด้วยคำสั่ง เมิจ วิสิเบิล (Merge Visible) คือ
การรวมเลเยอร์ทั้งหมดยกเว้นเลเยอร์ที่ซ่อน คลิกเมนู Layer àเลือก Merge Visible หรือกดปุ่ม
Shift + Ctrl + E
3) การรวมเลเยอร์ที่เลือก คือ การเลือกเลเยอร์ภาพที่ตกแต่งเรียบร้อยแล้วที่
ต้องการรวม โดยการคลิกแดรกเมาส์เลือกเลเยอร์ก่อนแล้วจึงกดปุ่ม Ctrl + E เพื่อรวมเลเยอร์เป็นภาพเดียวกันมีขั้นตอนดังนี้
ภาพที่ 3.18 แสดงภาพการรวมเลเยอร์ที่เลือก
4) การรวมเลเยอร์ทั้งหมดเป็นเลเยอร์ใหม่ คือ การรวมเลเยอร์ทั้งหมดแล้ว
สร้างเป็นเลเยอร์ใหม่ เลือกเลเยอร์บนสุด กดปุ่ม Ctrl + Alt + Shift + E เพื่อรวมเลเยอร์ทั้งหมด
ไปเป็นเลเยอร์ใหม่
ภาพที่รวมเลเยอร์ใหม่จะอยู่ด้านบนเป็น Layer 4 ถ้าต้องการคัดลอกภาพใหม่ใน
เลเยอร์ไปใช้งานกับภาพอื่นๆ จะทำได้ง่ายสามารถคัดลอกไปวางในภาพใหม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าไม่มีการรวมเลเยอร์ จะต้องคัดลอกภาพทั้งหมดมาวางในภาพอื่น จำนวน 3 ครั้ง ถึงจะได้ภาพครบทุกภาพ
3.3 การกำหนดความโปร่งใส โอพาซิตี้ (Opacity ) ของภาพ
การกำหนดความโปร่งใสของภาพในพาเลตเลเยอร์สามารถทำได้ 2 แบบ คือ การกำหนดค่า โอพาซิตี้ และค่าฟิวส์ (Fill) ในเลเยอร์ โดยการลดค่าโอพาซิตี้ จะทำให้ภาพ และเอฟเฟ็กต์ (Effects)
ในเลเยอร์ดูโปร่งใสขึ้นแต่ถ้ากำหนดค่าฟิวส์จะทำให้ภาพในเลเยอร์โปร่งใส แต่เอฟเฟ็กต์จะยังคงค่าเหมือนเดิม
การกำหนดค่าโอพาซิตี้ คือ ภาพทั้งหมดมีความโปร่งใส โดยต้องเลือกเลเยอร์ภาพก่อนแล้วคลิกเมาส์กำหนดค่า Opacity เป็น 50 % ลักษณะภาพ และเอฟเฟ็กต์จะเบลอ ดังตัวอย่างภาพนี้
ตัวอย่าง การลดค่าโอพาซิตี้ ลดลง 50 % จะเห็นว่าภาพและเอฟเฟ็กต์ดูโปร่งใสข ทำให้ภาพดูเบลอการมองไม่ชัดเจน
การกำหนดค่าฟิวส์ คือ การกำหนดความโปร่งใสเฉพาะภาพแต่แต่เอฟเฟ็กต์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น เอฟแฟ็กต์ คือ เส้นขอบยังคงเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่าง ภาพการลดค่าฟิวส์ ลดลง 0 % ภาพในเลเยอร์จะถูกปรับจางหายไป แต่เอฟเฟ็กต์ คือ
เส้นขอบยังคงเดิม
3.4 ซ่อนขอบเขตภาพด้วยคำสั่งคลิปปิ้ง มาสก์ (Clipping Mask)
การสร้าง คลิปปิ้ง มาสก์ (Clipping Mask)จะทำเมื่อต้องการซ่อนพื้นที่บางส่วนของ
เลเยอร์ที่เลือกให้มีขอบเขตเท่าภาพในเลเยอร์ที่อยู่ด้านล่าง โดยไม่จำเป็นต้องตัดภาพทิ้งจริงๆ ซึ่งวิธีการใช้งานมีดังนี้
3.4.1 การซ่อนขอบเขตภาพด้วยเลเยอร์มาสก์ คือ ภาพเลเยอร์บนเป็นวัตถุที่ต้องการนำมาวางซ้อนกับเลเยอร์ล่าง มีขั้นตอนดังนี้
1. สร้างกรอบภาพรูปหัวใจไว้ด้านล่างของ
2. สร้างเลเยอร์ใหม่ และนำรูปภาพมาวางบนสุด
3. กดปุ่ม Alt ค้างไว้แล้วคลิกเมาส์ระหว่างเลเยอร์ (Layer1 และ Shape 1) เพื่อสร้าง
Clipping Mask (นำเมาส์คลิกระหว่างเส้นแบ่งเลเยอร์สังเกตรูปแบบเมาส์จะเปลี่ยนแปลงไป แล้วคลิกเมาส์ทันที )
4
3.4.2 การปิด/เปิดเลเยอร์มาสก์ คือ การปิดเลเยอร์มาสก์ไว้ชั่วคราว ซึ่งทำให้ภาพที่ถูกบังปรากฎออกมาทั้งหมด เมื่อต้องการภาพอีกครั้งก็เปิดเลเยอร์มาสก์กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งสามารถ
ปิด/เปิดเลเยอร์มาสก์ได้หลายวิธีดังนี้
3.4.2.1 การปิดเลเยอร์มาสก์ด้วยการกดปุ่ม Shift คือ กดปุ่ม Shift ค้างไว้แล้วคลิกบนวัตถุ (Shape 1)ของเลเยอร์มาสก์ ดังภาพนี้
กดปุ่ม Shift ค้างไว้แล้วกดวัตถุที่วาด
เพื่อคลิปปิ้ง มาสก์
3.4.2.2 การปิดเลเยอร์มาสก์ด้วยการคลิกขวา คือการวางเมาส์บนวัตถุที่วาดก่อนแล้วคลิกขวาเลือกคำสั่ง ดิสเบิล เวคเตอร์ มาสก์ (Disable Vector Mask) ดังภาพนี้
3.4.2.3 การเปิดเลเยอร์มาส์อีกครั้ง คือ คลิกที่วัตถุที่ปิดเลเยอร์มาส์แล้วคลิกขวาเลือกคำสั่ง Enable Vector Mask
3.4.3 ลบเลเยอร์มาสก์ คือ การลบเลเยอร์มาสก์ที่ไม่ได้ใช้งาน หรือต้องการยกเลิกแบบถาวร คลิกขวาบนเลเยอร์มาสก์ แล้วเลือกคำสั่ง ดีรีส เวคเตอร์ มาสก์ (Delete Vector Mask) เพื่อลบเลเยอร์มาสก์ทิ้งได้ บนเลเยอร์จะเหลือแต่ภาพปกติตามเดิม
1. คลิกขวาที่เลเยอร์มาสก์
2. เลือก Delete Vector Mask
ผลลัพธ์การลบเลเยอร์มาสก์
3.5 แก้ไขช่วงสีไม่ต่อเนื่องของภาพด้วยคำสั่งออโต้ – เบรน เลเยอร์ (Auto-Blend Layer)
กรณีที่มีการนำภาพถ่ายมาเรียงต่อกัน หรือใช้งานคำสั่ง โฟโต้ เมิจ (Photo merge) ภาพที่นำมาวางมีความสว่าง และสีที่แตกต่างกันมากจนการไล่โทนสีไม่สมบูรณ์ ผู้ใช้สามารถเปิดคำสั่ง
ออโต้ – เบรน เลเยอร์ เพื่อทำการไล่โทนสีระหว่างภาพได้ดังขั้นตอนดังนี้
1. ลักษณะของภาพแบบพาโนราที่ต่อกันเรียบร้อยแล้วแต่ว่าสีของแต่ละภาพมีความ
แตกต่างกันมาก
รูปภาพต่างการจัดรูปแบบหรือการจัดวางต้องอาศัยพาเลตเลเยอร์ และจัดรูปแบบเครื่องมือต่างๆ สามารถกำหนดรูปแบบของไฟล์ภาพให้เหมาะสม เช่น ไฟล์รูปภาพสำหรับการพิมพ์ หรือไฟล์ภาพสำหรับงานเว็บเพจ
3.1 การกำหนดมุมมองและการย่อหรือขยายภาพ
3.1.1 แสดงเส้นกริด ไกด์ และไม้บรรทัด คือ การแสดงมุมมองเส้นกริด (Grid) ไกด์ (Guide) และไม้บรรทัด (Ruler) เป็นออปชันเพิ่มสำหรับการทำงานเกี่ยวกับการจัดการภาพถ่าย และงานด้านการออกแบบที่ต้องการความแม่นยำในเรื่องของตำแหน่งที่ต้องการวางภาพ มีรูปแบบ และการใช้งานดังขั้นตอนดังนี้
1. คลิกปุ่ม
2. เลือกออปชันที่ต้องการ
3. ลักษณะของเส้นกริด ไกด์ และไม้บรรทัดที่ปรากฎบนภาพที่ใช้งานอยู่
เครื่องหมาย P ด้านหน้าแสดงว่า
ออปชันนั้นถูกเรียกใช้งาน
ถ้าคลิกซ้ำจะเป็นการยกเลิก
เส้นไกด์แนวนอน
เส้นไกด์แนวตั้ง
ไม้บรรทัด
3.1.2 การย่อหรือขยายรูปภาพ คือ คำสั่งสำหรับการขยายไฟล์รูปภาพเพื่อดูรายละเอียดของภาพที่เปิดใช้งานให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น การย่อขยายด้วยเมนูวิว (View ) และการใช้เครื่องมือ
ซูม ทูล (Zoom Tool) มีขั้นตอนดังนี้
3.1.2.1 การย่อและขยายรูปภาพด้วยเมนู View มี 2 วิธี ดังนี้
1) การย่อรูปภาพจากเมนูคำสั่ง เช่น คลิกที่เมนู View à Zoom out หรือการ
ใช้คีย์ลัด เช่น กดปุ่ม Ctrl + – ที่แป้นพิมพ์ ถ้ากดซ้ำอีกภาพจะมีขนาดเล็กลงไปอีก
2) การขยายรูปภาพจากเมนูคำสั่ง เช่น คลิกที่เมนู ViewàZoom In หรือการ
ใช้คีย์ลัด เช่น กดปุ่ม Ctrl + + + ที่แป้นพิมพ์ ถ้ากดซ้ำอีกภาพจะมีขนาดใหญ่ขึ้นอีก
3.1.2.2 การย่อและขยายรูปภาพด้วยเครื่องมือซูม ทูล (Zoom Tool) คือ การย่อและขยายรูปภาพ โดยคลิกที่เครืองมือ และกำหนดคุณสมบัติเครื่องมือซูม ทูลในออปชันบาร์
ขั้นตอนดังนี้
ปรับขนาดให้พอดีกับหน้าต่างรูปภาพ
ปรับขนาดรูปภาพที่จะพิมพ์
ออกทางเครื่องพิมพ์
ปรับหน้าต่างให้พอดีกับการย่อ/ขยายภาพ
ปรับขนาดเท่ากับภาพจริง
ขยายรูปภาพ
ย่อรูปภาพ
ปรับหน้าต่างให้พอดีกับภาพย่อ/ขยาย
วิธีการย่อและขยายรูปภาพด้วยเครื่องมือ ซูม ทูล มีวิธีการดังนี้
1) หรือคลิกที่เครื่องมือ รูปเมาส์พอยเตอร์จะเปลี่ยนไปเป็นรูปแว่นขยาย
และเครื่องมือมีเครื่องหมาย + จากนั้นคลิกที่รูปภาพที่ต้องการขยาย
2) การย่อขนาดภาพโดยกดปุ่ม Alt ที่แป้นพิมพ์รูปเมาส์พอยเตอร์เปลี่ยนเป็น
รูปแว่นขยาย เมาส์มีเครื่องหมาย – จากนั้นคลิกรูปภาพที่ต้องการย่อขนาด
การขยายภาพด้วยเครื่องมือ ได้แล้วยังสามารถใช้คำสั่งอื่นๆ เช่น คีย์ลัด
ขยายภาพเป็นขนาด 100 % ได้ง่ายๆ โดยการกดปุ่ม Ctrl + Alt + 0 หรือย่อขนาดภาพให้เต็มจอพอดีโดยกดปุ่ม Ctrl + 0 การย่อรูปภาพหรือขยายรูปภาพที่นิยมอีกวิธีหนึ่ง คือ การใช้พาเลตเนวิเกเตอร์ (Navigator) ขยายรูปภาพ โดยคลิกเรียกได้จาก เมนู Window à Navigator เป็นการเปิดพาเลตดังกล่าวขึ้นมาซึ่งเราสามารถกำหนดขนาดการแสดงภาพ รวมถึงเลือกจุดที่ต้องการแสดงได้ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือบ่อยๆ ดังนี้
ภาพที่เปิดใช้งาน
กรอบสีแดงกำหนดพื้นที่แสดงภาพ
เปอร์เซนต์การขยายภาพ
ปรับเลื่อนย่อ/ขยายภาพ
ขยายภาพ
3.1.3 การเลือนดูภาพด้วยเครื่องมือ (Hand Tool) คือการการเลื่อนดูภาพส่วนต่างๆ
โดยคลิกที่เครื่องมือ จากนั้นคลิกเมาส์ค้างที่รูปภาพ แล้วดึงเมาส์เลื่อนดูทีละส่วนของรูปภาพในตำแหน่งที่ต้องการ
เมื่อนำเมาส์วางที่รูปภาพ เมาส์จะเป็นรูป ซึ่งสามารถใช้เมาส์นี้คลิกเลื่อนดูภาพตามตำแหน่งที่คลิกเมาส์ลงไป (โดยวิธีการดึงเมาส์จะเลื่อนภาพมา ณ จุดที่ต้องการดูรูปภาพ) การใช้เครื่องมือดังกล่าวจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อขยายรูปภาพนั้นๆ ให้มีขนาดใหญ่กว่าหน้าต่างโปรแกรม จึงจะสามารถเลื่อนดูภาพส่วนอื่นๆ ได้
3.2 การตกแต่งภาพด้วยพาเลตเลเยอร์ (Layer )
พาเลตเลเยอร์ คือ การลำดับภาพ การตกแต่งภาพสามารถใช้คำสั่งตกแต่งแก้ไขภาพบางส่วนของภาพได้ เช่น คำสั่งในการแก้ไขภาพ ปรับแต่งภาพ ลบภาพ สามารถทำได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับส่วนอื่นๆ ของภาพ โดยอาศัยการทำงานของพาเลตเลเยอร์ที่สามารถควบคุมรูปภาพแยกเป็นส่วนๆ และสามารถสร้างรูปภาพที่มีการวางซ้อนทับกัน
3.2.1 วิธีการเรียกใช้พาเลต Layer มีวิธีการเรียกใช้จากเมนู Window แล้วเลือกพาเลต Layer
ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกที่เมนู Window à Layer หรือ กดปุ่ม F7
2. คลิกเลือกพาเลตเลเยอร์
3.2.2 ส่วนประกอบของพาเลตเลเยอร์ การสร้างภาพจำเป็นต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับการใช้พาเลตเลเยอร์ เช่น การใส่เอฟเฟ็กต์ การสร้างเลเยอร์ มาสก์ (Layer Mask) และการซ่อนเลเยอร์เพื่อดูผลลัพธ์ในลักษณะต่างๆ โดยส่วนประกอบของเลเยอร์ที่สำคัญมีดังภาพนี้
การล็อกเลเยอร์
การผสานสีเลเยอร์
สัญลักษณ์เพื่อซ่อน/แสดง
เลเยอร์
กำหนดความโปร่งใสของภาพ
กำหนดความโปร่งใส
ของภาพในเลเยอร์
ใส่สไตล์ให้เลเยอร์
เลเยอร์ตัวอักษร สัญลักษณ์ T
เลือกเลเยอร์ที่ทำงาน
สร้างลิงค์ให้เลเยอร์ที่เลือก
สร้างเอฟเฟ็กต์ให้เลเยอร์
สร้างมาสก์ให้เลเยอร์
สัญลักษณ์ที่แสดงว่าเลเยอร์นั้น
ถูกล็อกการทำงาน
ลบเลเยอร์
สร้างเลเยอร์
สร้างเลเยอร์กรุ๊ป (Group)
3.2.3 พาเลตเลเยอร์ ( Layer) คือ ลำดับขั้นตอนการวางภาพแบบหนังสือซ้อนทับกันจำนวนหลายๆ เล่ม โดยวัตถุที่อยู่ด้านบนสุดจะบังทับวัตถุที่อยู่ด้านล่าง และถ้าหากวัตถุที่อยู่ด้านบนมีการเจาะทะลุผ่านจะสามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ด้านล่างได้ด้วย รูปภาพที่มีการวางซ้อนทับกันหลายๆ ภาพ โดยการวางภาพไม่ควรอยู่ในเลเยอร์เดียวกัน เพื่อความสะดวกในการแก้ไขภาพ เช่น การลบภาพการกำหนดความโปร่งใสของภาพ การวางภาพแบบมีลำดับก่อนหลัง การใส่สีเส้น และการใส่เอฟเฟ็กต์ เช่น การวางซ้อนทับกันของภาพในเลเยอร์ดังภาพนี้
3.2.4 การจัดการเบื้องต้นกับเลเยอร์ คือ การจัดการเบื้องต้นในการสร้างเลเยอร์ใหม่เพื่อใช้ระบายสี การปรับแต่งค่าอื่นๆ ที่ไม่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงภาพในเลเยอร์เดิม และการลบเลเยอร์ที่ไม่ต้องการ โดยมีวิธีการดังนี้
3.2.1.2 การสร้างเลเยอร์ใหม่ คือ การคลิกเมนู LayeràNew à Layer หรือปุ่ม
Shift + Ctrl + N ซึ่งสามารถกำหนดออปชันเพิ่มเติมให้เลเยอร์ใหม่ที่สร้างได้ ขั้นตอนดังนี้
1. คลิกเมนู LayeràNew à Layer หรือกดปุ่ม Shift + Ctrl + N
เพื่อเปิดหน้าต่าง New Layer
2. ตั้งชื่อให้เลเยอร์ที่สร้างขึ้น
3. คลิกเลือกสีของเลเยอร์ เพื่อแยกกลุ่มหรือประเภทของเลเยอร์ที่ทำงาน
4. ได้เลเยอร์ใหม่ ที่มีชื่อและสีเลเยอร์ตามที่กำหนด
เลเยอร์ที่สร้างไว้แล้ว และต้องการเปลี่ยนชื่อเลเยอร์ในภายหลังสามารถทำได้โดยการ
ดับเบิลคลิกบนชื่อเลเยอร์เดิมแล้วตั้งชื่อให้เลเยอร์ใหม่ได้ทันที การตั้งชื่อทำเพื่อสะดวกในการค้นหา
เลเยอร์ในภายหลัง
ดับเบิลคลิกแล้วพิมพ์ชื่อใหม่ได้ทันที
3.2.1.3 การสร้างสำเนาเลเยอร์ (Duplicate Layer) คือ การคัดลอกเลเยอร์เพิ่มจาก
เลเยอร์เดิม การตกแต่งภาพบางครั้งจำเป็นต้องนำภาพในเลเยอร์เดิมมาทดลองปรับแต่งแก้ไขก่อนเพื่อป้องกันความเสียหายของภาพต้นฉบับ ซึ่งเราเรียกวิธีการนี้ว่าการ Duplicate Layer ซึ่งสามารถทำได้
ตามขั้นตอนดังนี้
คลิกเลือกเลเยอร์ back แล้วกดปุ่ม
Ctrl + J เพื่อสร้างสำเนา
เลเยอร์ที่เลือก
แดรกเมาส์นำเลเยอร์มาปล่อยที่
ปุ่ม Create a new layer
3.2.1.4 การลบเลเยอร์ (Delete layer) คือ การลบเลเยอร์ที่ไม่ต้องการขั้นตอนดังนี้
1) การลบแบบถามซ้ำ การลบด้วยวิธีนี้คำสั่งจะถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความ
แน่ใจก่อนลบทิ้ง โดยมีขั้นตอนดังนี้
2. คลิก Yes เมื่อต้องการลบ หรือคลิก No เมื่อไม่ต้องการลบ
1. นำเมาส์คลิกเลเยอร์ที่ต้องการลบแล้วคลิก Delete layer
ภาพที่ 3.12 แสดงภาพการลบแบบถามซ้ำ
2) การลบเลเยอร์โดยการแดรกเมาส์มาวางที่ปุ่ม การลบด้วยวิธีนี้
ผู้ใช้สามารถเลือกเลเยอร์แล้วแดรกเมาส์ไปวางที่ปุ่ม (Delete layer) ได้ทันที โดยคำสั่งจะไม่ถามซ้ำว่าต้องการลบหรือไม่ทำให้ภาพนั้นลบไปทันที มีขั้นตอนดังนี้
เลือกเลเยอร์ภาพ แดรกเมาส์ดึง
เลเยอร์ภาพมาวางที่ปุ่ม เพื่อลบทิ้ง
3) การลบเลเยอร์แบบรวดเร็ว เมื่อต้องการลบเลเยอร์แบบรวดเร็วผู้ใช้
สามารถคลิกเลือกเลเยอร์แล้วกดปุ่ม Delete บนแป้นพิมพ์ได้ทันที
เลือกเลเยอร์แล้วกดปุ่ม Delete
บนแป้นพิมพ์ เพื่อลบทิ้ง
3.2.1.5 การสลับลำดับเลเยอร์ (Layer Order) คือ การสลับตำแหน่งการวางภาพใน
เลเยอร์เพื่อเปลี่ยนลำดับการซ้อนทับของภาพ โดยคลิกเมาส์เลือกเลเยอร์ที่ต้องการสลับ (เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูปมือ) แล้วแดรกเมาส์ไปวาง ณ ตำแหน่งที่ต้องการวางภาพ เช่น ต้องการนำภาพ Layer 2 วางไว้ด้านบนของ Layer 4 ให้สังเกตเส้นทึบสีน้ำเงินที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดที่สามารถปล่อยเมาส์ ณ ตำแหน่งที่ต้องการวางภาพ
3.2.1.6 การรวมเลเยอร์ (Merge Layer) คือ การรวมภาพสำหรับเลเยอร์ภาพที่ตกแต่ง
เรียบร้อยหรือเลเยอร์ภาพที่มีรูปแบบใกล้เคียงกันสามารถทำภาพเหล่านั้นให้กลายเป็นเลเยอร์เดียวกันได้ เพื่อลดจำนวนเลเยอร์ของภาพ โดยขั้นตอนดังนี้
1) รวมเลเยอร์ด้วยคำสั่งเมิจ ดาวน์ (Merge Down) คือ การรวมเลเยอร์ที่อยู่
ด้านบนกับเลเยอร์ด้านล่าง คลิกเลือก Layer 1 แล้วคลิกขวา เลือกคำสั่ง Merge Down ( คลิก Layer 1 à Merge Down) หรือกดปุ่ม Ctrl + E
2) รวมเลเยอร์ที่ไม่ได้ซ่อนด้วยคำสั่ง เมิจ วิสิเบิล (Merge Visible) คือ
การรวมเลเยอร์ทั้งหมดยกเว้นเลเยอร์ที่ซ่อน คลิกเมนู Layer àเลือก Merge Visible หรือกดปุ่ม
Shift + Ctrl + E
3) การรวมเลเยอร์ที่เลือก คือ การเลือกเลเยอร์ภาพที่ตกแต่งเรียบร้อยแล้วที่
ต้องการรวม โดยการคลิกแดรกเมาส์เลือกเลเยอร์ก่อนแล้วจึงกดปุ่ม Ctrl + E เพื่อรวมเลเยอร์เป็นภาพเดียวกันมีขั้นตอนดังนี้
ภาพที่ 3.18 แสดงภาพการรวมเลเยอร์ที่เลือก
4) การรวมเลเยอร์ทั้งหมดเป็นเลเยอร์ใหม่ คือ การรวมเลเยอร์ทั้งหมดแล้ว
สร้างเป็นเลเยอร์ใหม่ เลือกเลเยอร์บนสุด กดปุ่ม Ctrl + Alt + Shift + E เพื่อรวมเลเยอร์ทั้งหมด
ไปเป็นเลเยอร์ใหม่
ภาพที่รวมเลเยอร์ใหม่จะอยู่ด้านบนเป็น Layer 4 ถ้าต้องการคัดลอกภาพใหม่ใน
เลเยอร์ไปใช้งานกับภาพอื่นๆ จะทำได้ง่ายสามารถคัดลอกไปวางในภาพใหม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าไม่มีการรวมเลเยอร์ จะต้องคัดลอกภาพทั้งหมดมาวางในภาพอื่น จำนวน 3 ครั้ง ถึงจะได้ภาพครบทุกภาพ
3.3 การกำหนดความโปร่งใส โอพาซิตี้ (Opacity ) ของภาพ
การกำหนดความโปร่งใสของภาพในพาเลตเลเยอร์สามารถทำได้ 2 แบบ คือ การกำหนดค่า โอพาซิตี้ และค่าฟิวส์ (Fill) ในเลเยอร์ โดยการลดค่าโอพาซิตี้ จะทำให้ภาพ และเอฟเฟ็กต์ (Effects)
ในเลเยอร์ดูโปร่งใสขึ้นแต่ถ้ากำหนดค่าฟิวส์จะทำให้ภาพในเลเยอร์โปร่งใส แต่เอฟเฟ็กต์จะยังคงค่าเหมือนเดิม
การกำหนดค่าโอพาซิตี้ คือ ภาพทั้งหมดมีความโปร่งใส โดยต้องเลือกเลเยอร์ภาพก่อนแล้วคลิกเมาส์กำหนดค่า Opacity เป็น 50 % ลักษณะภาพ และเอฟเฟ็กต์จะเบลอ ดังตัวอย่างภาพนี้
ตัวอย่าง การลดค่าโอพาซิตี้ ลดลง 50 % จะเห็นว่าภาพและเอฟเฟ็กต์ดูโปร่งใสข ทำให้ภาพดูเบลอการมองไม่ชัดเจน
การกำหนดค่าฟิวส์ คือ การกำหนดความโปร่งใสเฉพาะภาพแต่แต่เอฟเฟ็กต์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น เอฟแฟ็กต์ คือ เส้นขอบยังคงเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่าง ภาพการลดค่าฟิวส์ ลดลง 0 % ภาพในเลเยอร์จะถูกปรับจางหายไป แต่เอฟเฟ็กต์ คือ
เส้นขอบยังคงเดิม
3.4 ซ่อนขอบเขตภาพด้วยคำสั่งคลิปปิ้ง มาสก์ (Clipping Mask)
การสร้าง คลิปปิ้ง มาสก์ (Clipping Mask)จะทำเมื่อต้องการซ่อนพื้นที่บางส่วนของ
เลเยอร์ที่เลือกให้มีขอบเขตเท่าภาพในเลเยอร์ที่อยู่ด้านล่าง โดยไม่จำเป็นต้องตัดภาพทิ้งจริงๆ ซึ่งวิธีการใช้งานมีดังนี้
3.4.1 การซ่อนขอบเขตภาพด้วยเลเยอร์มาสก์ คือ ภาพเลเยอร์บนเป็นวัตถุที่ต้องการนำมาวางซ้อนกับเลเยอร์ล่าง มีขั้นตอนดังนี้
1. สร้างกรอบภาพรูปหัวใจไว้ด้านล่างของ
2. สร้างเลเยอร์ใหม่ และนำรูปภาพมาวางบนสุด
3. กดปุ่ม Alt ค้างไว้แล้วคลิกเมาส์ระหว่างเลเยอร์ (Layer1 และ Shape 1) เพื่อสร้าง
Clipping Mask (นำเมาส์คลิกระหว่างเส้นแบ่งเลเยอร์สังเกตรูปแบบเมาส์จะเปลี่ยนแปลงไป แล้วคลิกเมาส์ทันที )
4
3.4.2 การปิด/เปิดเลเยอร์มาสก์ คือ การปิดเลเยอร์มาสก์ไว้ชั่วคราว ซึ่งทำให้ภาพที่ถูกบังปรากฎออกมาทั้งหมด เมื่อต้องการภาพอีกครั้งก็เปิดเลเยอร์มาสก์กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งสามารถ
ปิด/เปิดเลเยอร์มาสก์ได้หลายวิธีดังนี้
3.4.2.1 การปิดเลเยอร์มาสก์ด้วยการกดปุ่ม Shift คือ กดปุ่ม Shift ค้างไว้แล้วคลิกบนวัตถุ (Shape 1)ของเลเยอร์มาสก์ ดังภาพนี้
กดปุ่ม Shift ค้างไว้แล้วกดวัตถุที่วาด
เพื่อคลิปปิ้ง มาสก์
3.4.2.2 การปิดเลเยอร์มาสก์ด้วยการคลิกขวา คือการวางเมาส์บนวัตถุที่วาดก่อนแล้วคลิกขวาเลือกคำสั่ง ดิสเบิล เวคเตอร์ มาสก์ (Disable Vector Mask) ดังภาพนี้
3.4.2.3 การเปิดเลเยอร์มาส์อีกครั้ง คือ คลิกที่วัตถุที่ปิดเลเยอร์มาส์แล้วคลิกขวาเลือกคำสั่ง Enable Vector Mask
3.4.3 ลบเลเยอร์มาสก์ คือ การลบเลเยอร์มาสก์ที่ไม่ได้ใช้งาน หรือต้องการยกเลิกแบบถาวร คลิกขวาบนเลเยอร์มาสก์ แล้วเลือกคำสั่ง ดีรีส เวคเตอร์ มาสก์ (Delete Vector Mask) เพื่อลบเลเยอร์มาสก์ทิ้งได้ บนเลเยอร์จะเหลือแต่ภาพปกติตามเดิม
1. คลิกขวาที่เลเยอร์มาสก์
2. เลือก Delete Vector Mask
ผลลัพธ์การลบเลเยอร์มาสก์
3.5 แก้ไขช่วงสีไม่ต่อเนื่องของภาพด้วยคำสั่งออโต้ – เบรน เลเยอร์ (Auto-Blend Layer)
กรณีที่มีการนำภาพถ่ายมาเรียงต่อกัน หรือใช้งานคำสั่ง โฟโต้ เมิจ (Photo merge) ภาพที่นำมาวางมีความสว่าง และสีที่แตกต่างกันมากจนการไล่โทนสีไม่สมบูรณ์ ผู้ใช้สามารถเปิดคำสั่ง
ออโต้ – เบรน เลเยอร์ เพื่อทำการไล่โทนสีระหว่างภาพได้ดังขั้นตอนดังนี้
1. ลักษณะของภาพแบบพาโนราที่ต่อกันเรียบร้อยแล้วแต่ว่าสีของแต่ละภาพมีความ
แตกต่างกันมาก